Privacy Notice

คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว

ปรับปรุงล่าสุด วันที่ 31 พฤษภาคม 2565

บริษัท เคมีโก้ อินเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัดและบริษัทในเครือ ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “บริษัท” โดยบริษัทยึดมั่นการดำเนินธุรกิจอย่างมีจรรยาบรรณ เคารพและปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้ และตระหนักถึงการได้รับความไว้วางใจจากท่าน ที่ใช้ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท บริษัทเข้าใจดีว่าท่านต้องการความปลอดภัยในการทำธุรกรรมและการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

ดังนั้น บริษัทจึงให้ความสำคัญด้านการเคารพสิทธิในความเป็นส่วนตัวของท่านและการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ต่างๆ ในการดำเนินงานของบริษัทด้วยมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ท่านได้มั่นใจว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้รับจะถูกนำไปใช้ตรงตามความต้องการของท่านและถูกต้องตามกฎหมาย

 

1. นโยบายฉบับนี้มีขึ้นเพื่ออะไร

คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้ จัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงรายละเอียดและวิธีการจัดการและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท ได้รับมาจากท่าน วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และประมวลผล ตลอดจนระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวและสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

2. ข้อมูลส่วนบุคคล

2.1 ข้อมูลส่วนบุคคล คือ ข้อมูลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย เช่น

• ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด เพศ เลขประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง

•ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัย สถานที่ทำงาน ที่อยู่ที่ติดต่อ (สำหรับกรณีต่างจากที่อยู่อาศัย)หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ไอดีไลน์ บัญชีสื่อสังคม (Social Media Accounts)

•ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ เช่น IP address, MAC address, Cookie ID

•ข้อมูลอื่นๆ เช่น การใช้งานเว็บไซต์ เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และข้อมูลอื่นใดที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

2.1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้แก่บริษัทโดยตรง หรือให้ผ่านบริษัท หรือมีอยู่กับบริษัททั้งที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ ติดต่อ เยี่ยมชม ค้นหา ผ่านช่องทางดิจิทัล เว็บไซต์ Call Center ผู้ที่ได้รับมอบหมายหรือช่องทางอื่นใด
2.1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับหรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่นซึ่งไม่ใช่จากท่านโดยตรง เช่น หน่วยงานของรัฐ สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการทางการเงิน พันธมิตรทางธุรกิจ บริษัทข้อมูลเครดิต และผู้ให้บริการข้อมูล เป็นต้น ซึ่งบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งอื่นต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่านตามที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่บริษัทมีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมายอนุญาต

2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) คือ ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดเป็นการเฉพาะ ซึ่งบริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวต่อเมื่อบริษัทได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมายอนุญาต โดยบริษัทอาจต้องเก็บ รวบรวม ใช้ (ต่อไปในนโยบายฉบับนี้หากไม่กล่าวโดยเฉพาะเจาะจงจะเรียกข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่เกี่ยวกับท่านข้างต้น รวมกันว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”)

3. การจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัด

3.1 การจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจะกระทำโดยมีวัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบ
ด้วยกฎหมายและเป็นธรรม ในการเก็บรวบรวมและจัดเก็บข้อมูล ตลอดจนเก็บรวบรวม และจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
อย่างจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การให้บริการ หรือบริการด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นใดภายใต้วัตถุประสงค์ของ
บริษัทเท่านั้น ทั้งนี้บริษัทจะดำเนินการให้เจ้าของข้อมูล รับรู้ ให้ความยินยอม เป็นหนังสือหรือโดยผ่านทาง
อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งรวมถึงข้อมูลดังต่อไปนี้:

• ข้อมูลส่วนบุคคล (ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด เลขบัตรประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง เพศ )
• ข้อมูลการติดต่อ (ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ อีเมล เบอร์โทรศัพท์)
• ข้อมูลคู่ค้า (เลขประจำตัวประชาชน, ที่อยู่ และอีเมล)
• ข้อมูลที่ท่านให้กับบริษัท ตัวอย่างเช่น ข้อมูลในการกรอกแบบฟอร์ม หรือข้อมูลระหว่างเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัท หรือจากการตอบคำถามระหว่างการสนทนา หรือในการทำแบบสำรวจ
• ข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและการให้บริการของบริษัท
• ข้อมูลอื่นใดที่เจ้าของข้อมูลให้เพื่อที่จะเข้าร่วมกิจกรรม โปรโมชั่น งานแสดงสินค้า และกิจกรรมใด ๆที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลที่กรอกใน “ ติดต่อเรา” (“Contact Us”) หรือในช่องทางอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน
• ข้อมูลที่รวบรวมโดยระบบในคอมพิวเตอร์ (Cookies) และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน รวมถึงข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ (IP Address) ซึ่งข้อมูลประเภทนี้จะถูกรวบรวมในขณะที่ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์
• ข้อมูลพฤติกรรมการสืบค้น หมายถึง ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องต่อบุคคลธรรมดาที่ระบุตัวตนได้ เช่นประเภทเบราเซอร์ โดเมน เว็บไซต์ที่เยี่ยมชม เวลาเข้าเว็บไซต์ ที่อยู่เว็บไซต์อ้างอิงข้อมูลเพื่อการสนับสนุนลูกค้า โดยจะมีการเก็บ log การใช้งานของท่านจากบนแอพพลิเคชั่นของทางบริษัท
• ข้อมูลส่วนบุคคลที่ทางบริษัทดำเนินการจัดเก็บผ่านทางช่องทางในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ต่างๆ เช่นการลงทะเบียนเข้าใช้งาน หรือการติดต่อต่างๆ ผ่านช่องทาง Social Media ของบริษัท โดยจะเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตัวตนของท่านและข้อมูลการติดต่อ หรือข้อมูลอื่นใด ที่จะเป็นประโยชน์ในการให้บริการ บริษัทอาจมีการจัดเก็บข้อมูลส่วนตัวของท่านผ่านการทำแบบสอบถาม (SURVEY) ซึ่งข้อมูลส่วนตัวของท่านรวมถึงข้อมูลต่างๆ ดังต่อไปนี้ เช่น ชื่อ-นามสกุล, เบอร์โทรศัพท์, วันเกิด, เพศ เป็นต้น ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวข้างต้น บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านก่อนทำการเก็บรวบรวม เว้นแต่เพื่อปฎิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือใช้บังคับ (Legal Obligation) เพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล (Legitimate Interest)

(1) การบันทึกภาพ CCTV
(2) การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น การจัดการข้อร้องเรียน การประเมินความพึงพอใจ การดูแลลูกค้าโดยพนักงานของบริษัท
(3) การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทนตัวแทน ของลูกค้านิติบุคคล
(4) การติดต่อ การบันทึกภาพ การบันทึกเสียงเกี่ยวกับการจัดประชุม อบรม สันทนาการ หรือออกบูธ
(5) การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์
(6) การรับ-ส่งพัสดุ

• เป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล (Vital Interest)
• เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการ
ดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น (Contractual Basis)
• เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์
สาธารณะ หรือเพื่อการศึกษา วิจัย การจัดทำสถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม (Historical Document,
Research, or Statistics)

3.2 หากเป็นกรณีที่ผู้เยาว์ (บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์) ประสงค์จะให้บริษัทจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ แยกพิจารณาเป็นดังนี้

• ในกรณีผู้เยาว์อายุไม่ถึง 10 ปี บริษัทจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือผู้ปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ ประกอบกับการให้ความยินยอมของผู้เยาว์
• ในกรณีผู้เยาว์อายุเกิน 10 ปี แต่ไม่ถึง 20 ปี บริบูรณ์ บริษัทจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้เยาว์ประกอบการให้ความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือผู้ปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์

4. บริษัทรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

บริษัทรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรงจากหลายแหล่งที่มาของข้อมูล ได้แก่

• แพลตฟอร์มออนไลน์ บริษัทอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อท่านลงทะเบียนบัญชีในระบบอินเทอร์เน็ต การทำแบบสำรวจ การจัดกิจกรรม หรือการกรอกข้อมูลเพื่อรับข้อเสนอโปรโมชั่น การกดติดตามเพื่อรับข้อมูลการส่งเสริมการขาย หรือเพื่อเชื่อมต่อกับบริษัท
• การโต้ตอบสื่อสารออฟไลน์ บริษัทอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากทางออฟไลน์ เช่น เมื่อท่านเข้ามาในสำนักงานของบริษัท เมื่อมีการติดต่อกันผ่านทางโทรศัพท์ หรือเมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัท หรือการให้นามบัตร
• ในกรณีที่บริษัทเข้าทำสัญญากับท่าน นอกจากนี้ บริษัทอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ซึ่งรวมถึง แหล่งข้อมูลที่เปิดเผยแบบสาธารณะ พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท บุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูล (ยกตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการรายอื่นที่ให้บริการเจ้าของข้อมูล)
• ข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลที่สาม เช่น ตัวแทน ร้านค้า หรือบริษัทที่ให้การบริการจัดเก็บรวบรวมข้อมูล คู่ค้า พันธมิตร เป็นต้น
• ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากบริษัทในเครือ

5. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เผยแพร่ ประมวลผล โอน หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ในการเก็บรวมรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล โอน หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

5.1 เพื่อจัดหาสินค้าหรือให้บริการแก่ท่าน
5.2 เพื่อการบริหารความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับท่าน
5.3 เพื่อการติดต่อสื่อสาร แจ้ง และ/หรือ รับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ จากบริษัท หรือการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นของบริษัท
5.4 เพื่อการดำเนินการตามความประสงค์ของท่านที่ได้แจ้งไว้กับบริษัท
5.5 เพื่อการนำเสนอสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ และ/หรือ บริการอื่น ๆ ของบริษัท อาทิ การให้คำแนะนำและ/หรือ ข้อเสนอเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการบริการ รวมถึงโปรโมชั่นต่าง ๆ ในการส่งเสริมกิจกรรมทางการตลาดรวมถึง การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของบริษัท
5.6 เพื่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การตรวจสอบ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่การปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงการบริการ การวิเคราะห์การใช้งานด้านบริการ การสำรวจการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การพิจารณาการดำเนินงานและขยายธุรกิจของบริษัท
5.7 เพื่อการจัดทำฐานข้อมูลและประวัติการเข้าซื้อผลิตภัณฑ์และใช้บริการของทางบริษัท
5.8 เพื่อศึกษาและรับทราบข้อมูลสถิติทางประชากรศาสตร์ของผู้ใช้บริการ เพื่อให้บริษัทรู้จักผู้ใช้บริการบนเว็บไซต์ ช่องทางออนไลน์ และแอพพลิเคชั่นของบริษัทมากยิ่งขึ้น
5.9 เพื่อวิเคราะห์และประมวลผลจากประวัติการเยี่ยมชมเวปไซต์หรือช่องทางต่าง ๆ ของบริษัทร่วมกับประวัติการสืบค้นเนื้อหาภายในเวปไซต์หรือช่องทางออนไลน์ของบริษัทของผู้ใช้บริการเพื่อนำเสนอเนื้อหารายการที่คาดว่าจะถูกใจหรือเป็นที่ชื่นชอบของผู้ใช้บริการ
5.10 เพื่อนำมาใช้ในการปรับปรุงเว็บไซต์ ช่องทางออนไลน์ และแอพพลิเคชั่นของบริษัท ให้เหมาะสมกับความต้องการผู้ใช้บริการ และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
5.11 เพื่อเป็นช่องทางติดต่อในการรับข้อติชม ข้อเสนอแนะ เพื่อนำมาปรับปรุงผลิตภัณฑ์และการบริหาร ให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า
5.12 เพื่อเป็นช่องทางในการติดต่อลูกค้าที่ร่วมสนุกสำหรับกิจกรรมชิงรางวัลของที่ระลึกจากบริษัท
5.13 เพื่อโต้ตอบการสอบถามหรือการร้องเรียนของท่าน และเพื่อแก้ปัญหาและข้อพิพาทใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการติดต่อกับบริษัท
5.14 เพื่อให้บริการ หรือให้การช่วยเหลือตามที่ท่านร้องขอ
5.15 เพื่อวัตถุประสงค์ในการทำการตลาดโดยตรง ผ่าน อีเมล สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)และ/หรือ ช่องทางการติดต่ออื่นๆ ในกรณีที่ท่านเข้าร่วมเป็นสมาชิกในกิจกรรมต่าง ของบริษัท และวิธีการอื่นใดตามที่ท่านยินยอม
5.16 เพื่อแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับผู้สอบบัญชีสำหรับการตรวจสอบและการรายงานบัญชีภายในของบริษัท
5.17 เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด เช่น เพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดเรื่องการรายงานงบการเงินของบริษัท ที่กำหนดโดยผู้สอบบัญชี และ/หรือหน่วยงานของรัฐ และเพื่อให้ความร่วมมือกับ เจ้าพนักงานที่บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล และ/หรือ คำสั่งศาลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการพิจารณาคดีหรือการสืบสวนในคดี
5.18 เพื่อแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับผู้ร่วมธุรกิจของบริษัท เพื่อการพัฒนาสินค้า และ/หรือบริการ หรือการจัดทำแคมเปญส่งเสริมการขายร่วมกัน
5.19 เพื่อให้บริษัทสามารถปฏิบัติตามหน้าที่ของบริษัทและสามารถบังคับตามสิทธิที่บริษัทมีตามสัญญา หรือเอกสารใดๆ ที่บริษัทเป็นคู่สัญญา
5.20 เพื่อบังคับตามสิทธิ หรือปกป้องสิทธิของบริษัทหรือสิทธิของท่าน โดยให้สอดคล้องกับหน้าที่ของบริษัทภายใต้กฎหมายกฎ และข้อบังคับที่บังคับใช้วัตถุประสงค์ในการที่บริษัทอาจหรือจะทำการรวบรวม นำไปใช้ เปิดเผย หรือดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต่างๆ โดยวัตถุประสงค์ดังกล่าวอาจไม่ถูกระบุอยู่ในข้อกำหนดข้างต้น อย่างไรก็ตาม บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์นั้นๆ เมื่อบริษัทได้รับความยินยอมจากท่านสำหรับการดำเนินการดังกล่าว เว้นแต่กรณีที่กฎหมายอนุญาตให้บริษัทดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากท่านก่อน

6. บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ โดยบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าวจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่ท่านได้ให้ความยินยอมหรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้
บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือฐานทางกฎหมายอื่นตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ เช่น ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ให้บริการภายนอกตัวแทนของบริษัท ผู้รับจ้างช่วงงานต่อ สถาบันการเงิน ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายนอก ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย นิติบุคคลหรือบุคคลใดๆ ที่มีความสัมพันธ์หรือมีสัญญาอยู่กับบริษัท ซึ่งรวมตลอดถึง ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัทและของบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าว

7. บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเท่าใด

บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตราบเท่าที่จำเป็น โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์และความจำเป็นที่บริษัทจะต้องดำเนินการจัดเก็บรวบรวมและประมวลผล ซึ่งรวมไปถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ใช้บังคับในเรื่องดังกล่าว บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้หลังระยะเวลาที่สัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับบริษัทสิ้นผลบังคับระยะเวลาหนึ่งและสอดคล้องตามระยะเวลาและอายุความของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทจะจัดเก็บไว้ในสถานที่จัดเก็บที่เหมาะสมตามประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้บริษัทจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปแม้จะพ้นกำหนดอายุความตามกฎหมายแล้วก็ตาม เช่น กรณีอยู่ระหว่างการดำเนินคดีหรือพิจารณาคดีตามกฎหมาย เป็นต้นทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตราการป้องกันด้านการบริหารจัดการ(administrative safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (technical safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (physical safeguard) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม
หมายความว่า มีการธำรงไว้ซึ่งความลับ (confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (integrity) และให้ข้อมูลอยู่ในลักษณะที่พร้อมใช้งาน (availability) และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัท ได้กำหนดนโยบายระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัท ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยไม่ชอบ และบริษัท ได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะ ๆ ตามความจำเป็นและเหมาะสม

8. บริษัทคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตราการป้องกันด้านการบริหารจัดการ(administrative safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (technical safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (physical safeguard) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมและเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัทใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยไม่ชอบ และบริษัทได้มีการปรับปรุงนโยบายระเบียบ และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะๆ ตามความจำเป็นและเหมาะสมนอกจากนี้ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากบริษัทมีหน้าที่ต้องรักษาความลับข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่บริษัทกำหนดขึ้น

9. สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลมีอะไรบ้าง

สิทธิของท่านในข้อนี้เป็นสิทธิตามกฎหมายที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทกำหนดขึ้น และในกรณีท่านมีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ หรือถูกจำกัดความสามารถในการทำนิติกรรมตาม
กฎหมาย ท่านสามารถขอใช้สิทธิโดยให้บิดาและมารดา ผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือมีผู้อำนาจกระทำการแทนเป็นผู้แจ้งความประสงค์

9.1 สิทธิขอถอนความยินยอม : หากท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัทเว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านอาจส่งผลกระทบต่อท่านจากการใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการต่างๆเช่น ท่านจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ โปรโมชั่นหรือข้อเสนอใหม่ๆ ไม่ได้รับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดียิ่งขึ้นและสอดคล้อง
กับความต้องการของท่าน หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของท่าน จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม
9.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทและขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยว่าบริษัทได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร
9.3 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิคทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยเพื่อให้ท่านสามารถใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัท หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัท หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด
9.4 สิทธิขอคัดค้าน : ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน บริษัทจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณีนอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาด หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติได้อีกด้วย
9.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
9.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้แทน
9.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
9.8 สิทธิร้องเรียน : ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
9.9 การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น หากบริษัทปฏิเสธคำขอข้างต้น บริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย

10. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทได้มีการดำเนินการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer : DPO) เพื่อตรวจสอบการดำเนินการของบริษัทที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทได้จัดทำระเบียบ คำสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่กำหนดไว้ เพื่อให้การดำเนินงานตามแนวนโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปด้วยความถูกต้องเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพ

11. ท่านติดต่อบริษัทได้อย่างไร

“บริษัท” ถือว่าเป็นผู้ควบคุมข้อมูลภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หากท่านมีคำถามใด ๆ หรือต้องการใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ตามที่อยู่ดังต่อไปนี้

 

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท เคมีโก้ อินเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
19,19/1 ซอยโพธิ์แก้ว 3 แยก 19
แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240
อีเมล์ : dpo@th.chemicogroup.com
โทรศัพท์ : 02-017-8299 ต่อ 2520 หรือ 2511

ดาวโหลดเอกสารร้องขอใช้สิทธิ์เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ที่
https://nextcloud.chemicogroup.com/index.php/s/3yy8yCa3crgPkDX

 

นโยบายการใช้คุกกี้(Cookie Policy)

https://nextcloud.chemicogroup.com/index.php/s/YR5zNbSWFM5maeL

This site is registered on wpml.org as a development site.